วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

LOMO - Diana F




     Diana เธอเป็นกล้องที่มีเกือบทุกอย่างคล้ายLoMo LC-A (เเต่ถูกกว่าอย่างเเรง ) มาจากบริษัท

Lomography เเละใช้ฟิล์มรุ่น120 ถ่ายภาพได้ขอบดำ ถ่ายภาพซ้อนไม่จำกัดมีหลากหลายรุ่น เช่น

Diana Miniด้วยขนาดครึ่งคืบเเละใช้ฟิล์ม135 Diana มีAccessories มากมาย เช่น Filterต่างๆมากมาย

เป็น fisheye หรือภาพเปลี่ยนโทนได้ Adapterที่เปลี่ยนเป็นกล้องโพลาลอยด์ได้


 ตัวอย่างภาพ

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

LOMO - HOLGA 120GCFN





กล้อง TOY CAREMA ในสไตล์ LOMO

ใช้ฟิล์ม Format120

ถ่ายได้ 2แบบ คือ ผืนผ้า(6x4.5 ถ่ายได้ 16 ภาพ )และจตุรัส (6x6) ถ่ายได้ 12 ภาพ

เลนส์แก้ว"G"

เลนส์ 60 mm (เทียบเท่า 38 mm ในformat 135)

ปรับความชัด (โฟกัส) 4 ระยะ 1 เมตร,2 เมตร,6 เมตร,10 เมตรขึ้นไป

หน้ากล้อง F8 - 11

ความเร็วชัตเตอร์ 1/100 คงที่

ชัตเตอร์ปกติ และชัตเตอร์ "B" (เปิดหน้ากล้องค้าง)

มีรูเสียบขาตั้งกล้อง

ถ่ายภาพซ้อนได้ไม่จำกัด

มีแฟลชเปลี่ยนสีได้ ขาว-แดง-น้ำเงิน-เหลือง

ใช้ถ่าน AA 2 ก้อน

LOMO - LC-A



LC-A หรือ Lomo Compact Automat ถือได้ว่าเป็นราชาของกล้องโลโม่เลยก็ว่าได้ ด้วยคุณสมบัติ

ของกล้องที่ใช้ง่ายและแข็งแรงทนทาน และยังมีโหมด Auto ที่สามารถถ่ายภาพได้ทุกสภาพแสง





เลนส์ เลนส์ 32 mm. Minitar 1

ความไวซัตเตอร์ จะมีความเร็วชัตเตอร์ตายตัวอยู่ที่ 1/60 แต่ถ้า เลือกใช้โหมด Aจะมีความเร็ว

ชัตเตอร์ ตั้งแต่ 1/500-2 วินาที และชัตเตอร์บี

ขนาดรูรับแสงมีตั้งแต่ f2.8, f4, f5.6, f8, f11, f16 และโหมด A ที่ สามารถปรับรูปรับแสงตามสภาพแสง

โฟกัส เป็นโฟกัสแบบ manualมีระยะ โฟกัสที่ 0.8 เมตร-อินฟินิตี้

ฟิล์ม ที่ใช้ 35 มม. (สี, สไลด์, หรือขาวดำ)

แบตเตอรี่ ใช้ถ่าน SR-44P จำนวน 3 ก้อน

LOMO - POP 9


        กล้องสำหรับชาวโลโม่ที่ชอบภาพแนว Pop Art ภาพที่ได้จากกล้องตัวนี้จะมี 9 เฟรมใน 1 รูปใครที่ชอบภาพแนวนี้ไม่ควรพลาดที่จะมีกล้องตัวนี้ไว้ครอบครอง
เลนส์ : เลนส์พลาสติก 24 mm.จำนวน 9 เลนส์


มีเลนส์แถวละ 3 ทั้งแนวตั้งและแนวนอน


ภาพที่ได้จะมี 9 เฟรม ใน 1 ถ่ายในที่ร่มโดยใช้แฟลชภาพจากฟิล์ม ขาวดำ นำไปล้างแบบ Cross Process

ขนาดรูรับแสง : f11

ความไวซัตเตอร ์ : ชัตเตอร์ตายตัวอยู่ที่ประมาณ 1/125

โฟกัส : มีระยะโฟกัสที่ตายตัวอยู่ที่ 0.8 เมตร-อินฟินิตี้

แฟลช : จะมีแฟลชในตัวระยะแฟลชประมาณ 3 เมตร


แบตเตอรี่ : ถ่าน AA จำนวน 3 ก้อนใส่ สำหรับแฟลช


ฟิล์มที่ใช้ : 35 มม. (สี, สไลด์, หรือขาวดำ)

LOMO - Oktamat




           ความมันส์ของกล้องนี้ก็อยู่ตรงที่มันมี 8 เลนส์นี่ล่ะ เพราะเพียงแค่คุณกดชัตเตอร์ 1 คลิก ทั้ง 8 เลนส์ก็จะทยอยทำงาน ดังนี้เมื่อคุณกดชัตเตอร์ 1 ครั้ง ม่านชัตเตอร์จะเปิดจากซ้ายสุด ไล่ไปขวา ขึ้นขวาแล้วไล่ไปซ้ายสุด ความมันส์จะเกิดขึ้นก็ตอนที่คุณ แอคชั่นท่าทางต่างๆความสนุกของคุณจะเพิ่มขึ้น และจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อคุณนำฟิล์มไปล้างแล้วได้เห็นรูปเหล่านั้น คำเตือนคุณควรถ่ายในที่กลางแจ้ง หรือที่ที่มีแดดจัดๆ รับรองว่ารูปที่ได้จะสวยคุ้มค่าเหนื่อยที่กระโดดโลดเต้นอยู่หน้ากล้องแน่นอน




ความมันส์ของกล้องตัวอยู่ อยู่ที่การแอคชั่น ท่าต่างๆ และที่สำคัญต้องถ่ายที่แดดจัดๆ

เลนส์ : 8 เลนส์ / x7.5 x3.2 ซม. (4.25 x3 x1.25 นิ้ว)


ขนาดรูรับแสง : f/8

ความไวซัตเตอร ์ : 1/100 sec

โฟกัส : มีระยะโฟกัสที่ตายตัวอยู่ที่ 0.8 เมตร-อินฟินิตี้

แฟลช : จะมีแฟลชในตัวระยะแฟลชประมาณ 3 เมตร

แบตเตอรี่ : ถ่าน AA จำนวน 3 ก้อนใส่ สำหรับแฟลช

ฟิล์มที่ใช้ : 35 มม. (สี, สไลด์, หรือขาวดำ)

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

LOMO - Horizon Kompakt


            กล้องโลโม่แบบพาโนรามาสีครีม ตัวนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียว

คือ สามารถเก็บภาพแบบพาโนรามาได้อย่างง่ายดาย  ทำให้คุณได้รับความสนุกในการถ่าย

ภาพแบบพาโนรามาทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้ง



เลนส์ : ป็นเลนส์แบบ swing ที่บันทึกภาพโดยการ


แพนกล้องจากซ้ายไป ขวา 120 องศาทำให้

ขนาดรูรับแสง : มีรูรับแสงตายตัว f8


ความไวซัตเตอร ์ : มี 2 สปีด คือ 1/60 สำหรับถ่ายกลางวันและ


สำหรับถ่ายกลางคืน


โฟกัส : 1 เมตร-อินฟินิตี้


ฟิล์มที่ใช้ : 35 มม. (สี, สไลด์, หรือขาวดำ)


ถ่ายได้ประมาณ 22-24 รูป

LOMO - ActionSampler


    จุดเด่นของเจ้ากล้องตัวนี้ คือมี 4 ตา ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกล้องตัวนี้เลยก็ว่าได้ ตัวกล้องทำจากพลาสติกน้ำหนักเบา รูปร่างหน้าตาชวนให้ผู้พบเห็นต้องเหลียวมองว่าเจ้ากล้องตัวนี้ คือกล้องอะไร กล้องตัวนี้ประกอบด้วย เลนส์ที่มี 4 เลนส์ในตัวเดียวกันเมื่อคุณกดชัตเตอร์ ม่านจะเปิดที่ล่างซ้ายไล่ไปทางขวา แล้วไปจบที่ ซ้ายบน ซึ่งทำให้ภาพที่ออกมา มี 4 รูป หรือ 4 แอ็คชั่น ตามที่คุณแอ็คชั่นหน้ากล้อง ความสนุกของกล้องนี้ก็อยู่ที่คุณจะแอ็คชั่นต่างๆนานา แล้วรอดูภาพที่ออกมาฟิล์ม


ใช้ฟิล์ม ขนาด 35 มม. เจ้า แต่ถ้าคุณใช้รุ่นที่มีแฟลช ก็พกมันไปตามที่ต่างๆได้เลย เพราะพลังแฟลชของมัน มี 4 ตาเหมือนกับเจ้ากล้องที่มี 4 เลนส์ รับรองมันส์แน่นอน





เลนส์ : 26 มม. 4 เลนส์


ระยะโฟกัส : 1.2 ม.จนถึง infinity ตายตัว ไม่สามารถปรับได้


ชัตเตอร์ : speed 1/100 วินาที ใน 1 รูปจะมี 4 เฟรม


เฟรมละ 0.25 วินาที 4 เฟรมใน 1 วินาที


รูรับแสง : 8-11 เป็นรูรับแสงแบบตายตัว


ฟิล์มที่ใช้ : 35 มม. (สี, สไลด์, หรือขาวดำ)


การล้างภาพ : สามารถร้านได้จากศูนย์ล้างภาพทั่วไป

LOMO - Fisheye 2




        บางคนอาจเรียกว่ากล้องตาปู ที่มาของชื่อนี้คงมาจากสัญลักษณ์รูปปูที่อยู่ข้างๆปุ่มชัตเตอร์นี่แหละค่ะ fisheye 2 ก็ยังคงให้ภาพที่เป็นมุมกว้างถึง 170 องสา และเป็นลักษณะวงกลมในสไตล์ของ fisheye เช่นเดิม เพียงแต่เพิ่มลูกเล่นพิเศษเพื่อให้เราได้สนุกสนานกับการถ่ายภาพมากขึ้น ลูกเล่นที่เพิ่มขึ้นนั้นคือ ชัตเตอร์บี ซึ่งเราสามารถตั้งเวลาในการเปิดรูรับแสงได้ โดยเลื่อนปุ่มไปที่ตัว B รูรับแสงจะเปิดรับแสงเป็นเวลานานเพียงใด ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่การกดชัดเตอร์ค้างไว้ อย่างเช่น ต้องการถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อยเราก็อาจจะกดซัตเตอร์นั้นค้างไว้ซัก 1-3 วินาที หรืออาจจะเป็น 10-20 วินาทีสำหรับที่มืดมาก อาจจะทำให้เราได้ภาพที่มีความแปลกใหม่และมีความน่าสนใจไปอีกแบบ

อีกหนึ่งลูกเล่นพิเศษของ Fisheye 2 คือการถ่ายภาพซ้อนหรือ การเบิ้ลนั่นเอง (Multiple exposure) ซึ่งเราสามารถจะถ่ายภาพหลายๆ shot ใน 1 แฟรมได้ โดยที่ถ่าย shot แรกแล้วกดปุ่ม MX ถ้าคุณต้องการจะถ่ายshot ต่อไปในแฟรมเดียวกันนั้น และสามารถทำแบบนี้ซ้ำไปมาได้มากตามที่เราต้องการ




ขนาด 4.25 นิ้ว x 2.5 นิ้ว x 2.5 นิ้ว

น้ำหนัก 0.5 ปอนด์ (0.23 กิโลกรัม)

รูรับแสง f/8

ความไวซัตเตอร์ /100 “B”
แฟลช แฟลชในตัวพร้อมฐานเสียบ

ใช้แบตเตอรี่ AA 1 ก้อน

มุมมองของภาพ 70 องศา

Multiple exposure สามารถถ่ายได้หลาย shot

ใน 1 แฟรม (รูปจะมีลักษณะเป็นภาพที่ซ้อนกัน)

LOMO - Fisheye 1





 สัญลักษณ์รูปปลาสลักอยู่ข้างๆปุ่มชัตเตอร์ เป็นสิ่งแสดงถึงความน่ารักและแสนสนุกของ fish eye1

ภาพที่ถ่ายจากกล้องฟิชอายจะมีลักษณะเป็นวงกลมและสามารถรับภาพได้กว้างถึง 170 องศา

ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เองทำให้เราได้ภาพและมุมมองที่แตกต่างออกไปจากกล้องตัวอื่นๆ

แต่แน่นอนว่าวัตถุที่อยู่ในภาพ และbackground ที่ได้ก็ยังคงมีความคมชัดเช่นเดิมและด้วยแฟลตในตัว

ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะถ่ายในที่แสงมากน้อยเพียงใด Fish eye พร้อมให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพได้

ในทุกที่ที่คุณต้องการ



ขนาด 4.25"x2.5"x 2.5"

น้ำหนัก 0.5 ปอนด์ (0.23กก.)

รูรับแสง f/8

ความไวซัตเตอร์ 1/100

มุมมองของภาพ 170 องศา

ฟิล์มที่ใช้ 35 มม. (สี, สไลด์, หรือขาวดำ)

แบตเตอรี่ AA 1 ก้อน
 


LOMO

ประวัติ

          เดิมทีกล้องโลโม่ออกแบบมาเพื่อใช้ในหน่วยงานสายลับของกองทัพรัสเซีย โดย LOMO ย่อมาจาก Leningrad Optical-Machanical Organization ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตเลนส์เพื่อใช้ในโครงการอวกาศของกิจการกองทัพและผลิตเลนส์ที่ใช้ในกล้องโทรทัศน์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและอุตสาหกรรมของสหภาพโซเวียตในขณะนั้น มีคำสั่งให้หน่วยงาน LOMO ผลิตกล้องเลียนแบบกล้องคอมแพคท์ของญี่ปุ่นขึ้นมาให้เร็วที่สุด ถูกที่สุดและมากที่สุด เพื่อแจกจ่ายให้พลเมืองรัสเซียทุกคนได้รู้จักการถ่ายรูป โดยมีคำขวัญว่า "คอมมิวนิสต์อันทรงเกียรติทุกคนควรมีกล้อง Lomo Kompakt Automat LC-A เป็นของตัวเอง" โดยผู้ผลิตกล้อง Lomo Kompakt Automat LC-A คือ Michail Aronowitsch Radionov อดีตหน่วยตำรวจลับของสหภาพโซเวียต

ต่อมาเมื่อในปี พ.ศ. 2534 Matthias Fiegl และ Wolfgang Stranzinger หนึ่งในผู้บริหารบริษัทLomographische AG เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก แต่ลืมนำกล้องถ่ายรูปไปด้วย จึงไปซื้อและได้รู้จักกับกล้อง Lomo Kompakt Automat โดยบังเอิญ และหลังจากได้ถ่ายและล้างรูปจากร้านล้างรูปธรรมดาในซุเปอร์มาร์เก็ต ผลออกมา พบว่าภาพถ่ายมีสีสันจัดจ้านดูผิดเพี้ยน แต่มีความสวยงามจนทำให้พวกเขาได้หลงใหลกับภาพที่ปรากฏขึ้น และในปี 2535 Fiegl และเพื่อนได้จัดตั้งบริษัท Lomographische AG ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากนั้นไม่นานกระแสความนิยมในโลโม่กระจายไปทั่วโลก ภายใต้แนวความคิดว่า "Lomography is an analog lifestyle product"


เอกลักษณ์


           โลโมกราฟีเน้นการถ่ายภาพจากระดับเอว การใช้สีจัดเกิน สิ่งปนเปื้อนบนเลนส์ และจุดตำหนิอย่างจงใจ เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นศิลปะ เป็นนามธรรม เหล่านี้เป็นสิ่งที่นักถ่ายภาพโลโมกราฟีนิยมชมชอบ. ด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้กล้องโลโมเป็นที่นิยมสำหรับการพกพา และใช้บันทึกภาพในชีวิตประจำวัน. นอกจากนี้ ความสามารถในการถ่ายในที่ ๆ มีแสงน้อยได้ ทำให้มันเป็นที่นิยมสำหรับการภาพทีเผลอ (แคนดิด) การรายงานด้วยภาพ และภาพเหตุการณ์จริง (photo vérité, คำว่า vérité เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ความจริง)คุณสมบัติของโลโมแต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน เช่น Holka และ Diana เป็นกล้อง Medium Format, Actionsampler และ Supersampler สร้างภาพได้หลายเฟรมหลายแอคชั่นในการกดชัตเตอร์ครั้งเดียว, Pop- 9 จะให้ภาพซ้ำแบบ Pop Art, Colorsplash มีแฟลชที่เปลี่ยนสีได้, Fisheye ลักษณะภาพจะดูนูน ขอบรูปวงกลม ดีไซน์กล้องที่ดูกึ่งๆ คลาสสิก, LC-A+ มีการ Recite ในเชิงประวัติศาสตร์ในฐานะที่เป็นกล้องโลโม่รุ่นแรกตั้งแต่สมัยสายลับรัสเซีย


คติของโลโมกราฟีคือ "ไม่ต้องคิด ถ่ายไปเลย" ("don't think, just shoot")






กฎ 10 ข้อ ของโลโมกราฟี

1.พกกล้องโลโมของคุณไปทุกที่

2.ใช้มันตอนไหนก็ได้ - ทั้งกลางวันและกลางคืน

3.โลโมกราฟีไม่ใช่สิ่งสอดแทรก, แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ

4.ถ่ายจากเอว

5.เข้าใกล้วัตถุที่คุณต้องการความโลโม ให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้

6.ไม่ต้องคิด

7.ทำให้เร็ว

8.คุณไม่จำเป็นต้องรู้ล่วงหน้าว่าคุณจะถ่ายได้อะไรในฟิล์ม

9.และคุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้หลังจากถ่าย เช่นกัน

10.ไม่ต้องห่วงเรื่องกฏหรอก